Last updated: 13 ธ.ค. 2564 |
Seminole Patchwork เป็นเทคนิคงานต่อผ้าที่มีต้นกำเนิดมาจาก ชาวอินเดียนแดงเผ่า Seminole และ Miccosukee ที่อาศัยอยู่ในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเริ่มเป็นที่แพร่หลายในช่วงต้นทศวรรษที่ 1900 ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคือง ต้องใช้ผ้าที่มีอยู่อย่างจำกัดเพื่อตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าและเครื่องใช้ส่วนตัวที่สวยงาม งาน Patchwork หลายๆ ประเภทก็ถือกำเนิดในช่วงนี้เช่นกัน
ลักษณะเด่นของงาน Seminole คือสีสันที่สดใสมาก ให้ความรู้สึกที่เคลื่อนไหวและร่าเริง เช่น สีฟ้าเทอร์ควอยซ์ เขียวหัวเป็ด แดง มีการใช้สีเหลืองสำหรับการสร้างมิติให้กับงาน และจะใช้สีดำเป็นสีหลักเพื่อเน้นลวดลายที่เกิดจากการต่อผ้าให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ผ้าที่เหมาะกับการทำงาน Seminole คือผ้าคอตตอน 100% เพราะความทนทานต่อการรีดและซักในระหว่างการใช้งาน และสะดวกในการเย็บเพราะเนื้อผ้าจะอยู่ตัวไม่ลื่นไปมาง่ายเหมือนกับผ้าโพลีเอสเตอร์ และควรเป็นผ้าที่ความหนาเท่า ๆ กัน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการดึงรั้งให้งานย้วย
ผ้าที่ใช้ในยุคแรกจะใช้ผ้าพื้นเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันมีการใช้ผ้าลวดลายต่าง ๆ มาใช้ ทำให้เกิดงานที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เช่นการใช้ผ้าเหลือบทำให้ combination แต่ละชิ้นมีสีที่ไม่ซ้ำกัน ทำให้งานดูมีมิติมากยิ่งขึ้น เหมือนกระเป๋า Seminole String ใบนี้
การต่อผ้าแบบ Seminole ส่วนมากจะใช้เทคนิค Strip Piecing มากกว่าการนำผ้ามาต่อทีละชิ้น เทคนิคนี้จะเหมาะกับการเย็บด้วยจักรมากกว่ามือ เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมกันในการทำงานควิลท์มากเช่นกัน
โดยจะนำผ้า strip ยาว ๆ จำนวน 3-5 สีมาต่อกันให้เป็นแถบยาวๆ(Strata) แล้วค่อยตัดผ้าให้เป็นชิ้นเล็ก(Combination) จากนั้นจึงนำ Combination มาเรียงแล้วเย็บต่อกันอีกครั้งในตำแหน่งที่ต่างกันออกไป เพื่อให้เกิดลวดลายที่ดูซับซ้อน ด้วยวิธีเช่นนี้จะทำให้เกิดแพทเทิร์นจากผ้าแบบเดียวกันได้มากมายหลายสิบแบบ
การวางผ้าแบบเดียวกัน แต่สลับสีไปมาจะช่วยให้ได้แพทเทิร์นที่แตกต่างกันออกไป
เทคนิค Strip Piecing เป็นวิธีการเย็บที่ไม่ยาก ได้งานที่ดูละเอียดซับซ้อนอย่างรวดเร็ว ความยากของงาน Seminole อยู่ที่การคำนวณขนาดสำหรับตัดผ้า เพราะความแตกต่างของลายนอกจากเกิดจากการวางผ้าสลับไปมาแล้ว การวางผ้าสำหรับเย็บต่อในองศาต่าง ๆ กัน หรือการตัดผ้าในองศาที่ไม่เหมือนกัน ก็มีส่วนที่ทำให้ลายดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ดังนั้นผู้เย็บจึงต้องคำนวณขนาดตัดผ้าให้แม่นยำก่อนที่จะตัดผ้าครั้งแรก ถ้ามีความรู้ทางคณิตศาสตร์เรื่องสามเหลี่ยมและองศาต่าง ๆ จะช่วยได้มาก
Clan แพทเทิร์น Seminole ถ้าสลับการวางผ้าไปมาจะเกิดผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน การคำนวณขนาดให้ใช้วิธีนับช่อง แล้วมาคำนวณขนาดสำหรับตัดผ้า
ลายของ Seminole Patchwork ลายต่าง ๆ จะมาในรูปแบบของกระดาษกราฟแล้วเขียนเส้นระบายสีเป็นลาย เรียกว่า “Clan” ผู้ทำสามารถนับช่องของกราฟแล้วคำนวณเป็นขนาดของงานได้ แล้วให้แต่ละช่องเป็นตัวแทนของหน่วยที่เล็กที่สุดของงาน เช่น ¼”, ⅜”, ½” หรือ 0.5, 0.75, 1.0 cm
วิธีที่ดีที่สุดในการคำนวณขนาดตัดผ้าคือการเขียนและระบายสีงานที่ต้องการลงบนกระดาษกราฟ แล้วจากนั้นให้วัด ขนาดของ Strip ที่ต้องใช้แต่ละเส้นอย่างรอบคอบก่อนที่จะตัดผ้า หรือจะตัดเศษผ้าตามสีที่ออกแบบไว้ แล้วนำมาเรียงกันเพื่อช่วยในการคำนวณก็ได้ ดังนั้นการเข้าใจแพทเทิร์นถือเป็นหัวใจหลักของการทำงาน Seminole
เมื่อตัดผ้าได้ขนาดที่ต้องการแล้ว นำงานมาเย็บด้วยวิธี Strip Piecing แล้วค่อยตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนนำมาเย็บต่อกันจนเกิดเป็นลวดลาย
1) ตัดผ้าเป็น Strip ในรูปเลือกใช้ผ้าเหลือบลาย Sunset ความกว้าง 1 1/4" คู่กับผ้าลาย Setember Morning Brush strok กว้าง 2" จำนวน 2 ชิ้น
2) นำผ้ามาเย็บต่อกัน (Strata)
3) ตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ (Combination) แต่ละชิ้นกว้าง 1 1/4"
4) นำมาเรียงตามแบบที่เราออกไว้ด้านบน
5) เมื่อเย็บต่อกันเรียบร้อยแล้ว ค่อยตัดผ้าส่วนเกินออกให้ได้ขนาดที่ต้องการ
ลวดลาย Seminole มักจะได้มีการตั้งชื่ออ้างอิงตามสิ่งที่พบเห็นในธรรมชาติ เช่น Wind, Fire, TiGer Teeth, Rain, Birds, Dragonfly, Turtle ฯลฯ วนมากจะนำลายที่เย็บได้แต่ละลายมาต่อกันเป็นเส้นยาว ๆ ก่อนที่จะนำลายต่าง ๆ กันมาต่อให้เป็นชิ้นงาน โดยจะมีแถบผ้าเล็ก ๆ มาคั่นกลางแต่ละลายหรือไม่ก็ได้ หรือการใช้ Rickrack มาคั่นแต่ละลายก็พบเห็นได้ทั่วไป
ตัวอย่างชื่อลาย Seminole ที่ตั้งตามธรรมชาติ เท่าที่ค้นหาได้
1) 4 Crossed Logs 2) Fire 3) Rose 4) Happy Path
ในยุคแรกการนำงาน Seminole มาใช้จะพบในทำของใช้ในชีวิตประจำวันหลากหลายประเภท เช่น เสื้อผ้า ผ้าคลุมไหล่ กระเป๋า โดยไม่รองใย
กระเป๋าใบนี้ใช้เทคนิค Seminole มาทำสายกระเป๋า
ตะกร้าหัวใจใบนี้ใช้เทคนิค Seminoleเช่นกันค่ะ
สำหรับวงการควิลท์นอกจากจะนำมาทำเป็น Seminole Sampler Quilt แล้ว ยังนิยมใช้ในการทำบอร์เดอร์สำหรับงานควิลท์อีกด้วย เพราะความซับซ้อนของลายช่วยส่งเสริมให้งานควิลท์ดูมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ตามตัวอย่างข้างล่าง
9 ธ.ค. 2567
9 ธ.ค. 2567
9 ธ.ค. 2567
8 ธ.ค. 2567