Last updated: 9 พ.ค. 2564 |
การทำงานควิลท์ให้สวยงามนอกจากการเลือกใช้ผ้าที่เหมาะสมแล้ว ด้ายก็เป็นวัสดุที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะมีผลต่องานของเราพอสมควร การเลือกซื้อด้ายแต่ละหลอดนอกจากสีด้ายที่เหมาะสมแล้ว เราจึงควรพิจารณาตั้งแต่ชนิดของด้าย ขนาดของด้าย ความมันเงา กรรมวิธีการผลิต
ในซีรีส์นี้จะเริ่มจากชนิดของด้าย ที่เราควรรู้
ด้ายเป็นอุปกรณ์ตัดเย็บที่เราคุ้นเคยมากที่สุด และมีราคาถูกที่สุดในบรรดาอุปกรณ์ตัดเย็บ ในบ้านเราอาจจะเจอด้ายราคาถูกมาก ๆ แค่หลอดละ 5 บาท และอาจมีด้ายราคาแพงถึงขนาดหลอดละ 4-500 บาท ปัจจัยอะไรทำให้ด้ายมีราคาแตกต่างกันถึงขนาดนั้น เรามาลองไขปริศนากันดูค่ะ
สิ่งที่เราควรพิจารณาก่อนซื้อด้ายมีอะไรบ้าง
อย่างแรกเลย คือ วัตถุประสงค์การใช้งาน จะใช้เย็บมือหรือเย็บจักร ด้ายที่ใช้สำหรับการเย็บมือโดยเฉพาะ บางครั้งจะมีการเคลือบแวกซ์เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ลดปัญหาด้ายพันกันระหว่างเย็บ สามารถดึงด้ายผ่านผ้าได้ลื่นไหล ซึ่งด้ายแบบนี้ไม่เหมาะสำหรับนำไปใช้งานกับจักรเย็บผ้า เพราะแวกซ์ที่เคลือบผ้าอาจทำความเสียหายให้กับจักรของเราได้
ชนิดของเส้นใยที่ใช้ผลิตด้าย
ด้ายที่เราเห็นคล้าย ๆ กันไปหมด สามารถทำมาจากเส้นใยหลายชนิด แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราควรเลือกด้ายชนิดไหนมาใช้งาน ขอแนะนำด้ายที่เราควรรู้จักเพื่อที่จะเลือกให้เหมาะกับงานของเรา
การจำแนกชนิดของเส้นใยในการผลิตด้ายจะมี 2 แบบใหญ่ ๆ คือ
ด้ายที่ทำมาจากธรรมชาติ เช่น ด้ายคอตตอน ไหม เรยอง ขนสัตว์(woolX
ด้ายที่ทำจากใยสังเคราะห์ เช่น ด้ายโพลีเอสเตอร์ ด้าย Metallic ด้าย Halogram
ด้ายคอตตอน
1.ด้าย cotton 100% เป็นด้ายที่ได้รับความนิยมในหมู่คนทำงานควิลท์ เพราะเส้นใยที่เป็นฝ้ายเหมือนกันด้ายจึงไม่บาดเนื้อผ้า ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับชิ้นงานได้ ราคาที่ไม่สูงมากนัก และทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ ไม่ละลายง่ายแม้ผ่านการรีดซ้ำหลายครั้ง จึงเหมาะสำหรับทำงานควิลท์ นอกจากนี้ความนุ่มนวลของเส้นใยจึงเหมาะที่จะนำไปตัดเย็บเสื้อผ้าสำหรับสวมใส่ เสื้อผ้าเด็กและชุดชั้นใน
ฝ้ายที่นำมาผลิตเส้นด้ายมีหลายเกรด ด้ายคุณภาพดีมักใช้เส้นใย Extra Long Satple Egyptian Cotton ซึ่งมีเส้นใยที่ยาวสามารถนำมาผลิตด้ายที่มีความเหนียวทนทานสามารถใช้เย็บด้วยจักรได้ดี นำมาผ่านกรรมวิธี mercerize ซึ่งเป็นการนำด้ายไปแช่ในด่าง ทำให้ด้ายมีความเงาและแข็งแรงมากขึ้น
นอกจากนี้ด้าย Cotton ที่มีราคาแพงจะผ่านกรรมวิธี Glazed คือการนำด้ายไปผ่านความร้อนอย่างรวดเร็ว ทำให้ด้ายมีคุณสมบัติ low lint คือฝุ่นน้อย ช่วยยืดอายุการใช้งานของจักรและมีความด้านไม่เงาเพื่อความเป็นธรรมชาติของชิ้นงาน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของด้ายที่ควรให้ความสำคัญ
ถึงแม้ว่าประเทศเราสามารถผลิตฝ้ายได้ แต่ยังไม่มีเส้นด้ายจากฝ้ายที่มีคุณภาพดีพอที่จะใช้กับจักรเย็บผ้าได้
ด้ายคอตตอนพบได้ทั้งด้ายเย็บมือและจักร ในท้องตลาดมีให้เลือกใช้หลายขนาด หลายรูปแบบตามความต้องการ
ตัวอย่างของด้ายคอตตอน เช่น Konfetti , Efina, Precencia
ด้ายโพลีเอสเตอร์
2. ด้าย Polyester ด้ายสังเคระห์ เป็นอีกตัวเลือกสำหรับคนชอบเย็บผ้า เป็นด้ายที่ได้รับความนิยมมากเหมือนกันเหมาะสำหรับทำงานทุกประเภท เพราะราคาไม่แพง สามารถผลิตได้หลากหลายรูปแบบ มีความสวยงาม มีความเหนียวทนทาน
Polyester ยังนิยมนำมาทำด้ายควิลท์อีกเช่นกัน พบได้ทั้งด้ายเย็บมือและเย็บจักร ซึ่งด้ายคุณภาพดีก็มีลักษณะ low lint เช่นกัน
ตัวอย่างด้ายโพลีเอสเตอร์ เช่น Invisafil , Fujix Polyester , Decobob
Silk
3. Silk เป็นด้ายทางเลือกอีกชนิดหนึ่งสำหรับคนที่ชอบด้ายจากวัสดุธรรมชาติ ด้ายชนิดนี้ผลิตจากเส้นไหม มีความบางแต่เหนียวทนทาน มีความเงางาม สีสันสดใส เส้นใยมีความเรียบลื่นและไม่มีฝุ่น ซึ่งเหมาะกับการใช้งานกับจักรเป็นอย่างมาก เนื่องจากด้ายนี้มีราคาค่อนข้างสูงจึงมีการใช้งานที่ไม่แพร่หลาย
ด้ายเรยอง
4. Rayon หรือ Viscose Rayon ด้ายชนิดนี้ผลิตมาจากการบีบอัดเส้นใยจากต้นไม้จนได้เป็นด้ายแต่ละเส้น ข้อดีของด้ายชนิดนี้คือ ความนุ่มและเงา สีไม่ตก ราคาไม่แพง แต่มีข้อเสียในเรื่องความทนทาน ดังนั้นด้ายชนิดนี้จึงไม่เหมาะสำหรับการเย็บต่อผ้า แต่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการสร้างลวดลายบนชิ้นงาน เช่น งานปัก หรือการฟรีโมชั่น
ด้าย Metallic
5. Mettallic เป็นด้ายที่ผลิตจากการนำวัสดุต่าง ๆ มาพันและเข้าเกลียวด้วยกัน จนได้ด้ายที่มีความมันและเงางามเป็นพิเศษ
ด้าย Halogram
ด้าย Razzle Dazzle
นอกจากนี้ยังมีด้ายชนิดพิเศษแบบอื่น ๆ อีก เช่น ด้าย Halogram ที่มีความมันวาวมาก หรือด้าย Razzle Dazzle ที่นำด้าย Metallic มาผสมกับด้ายเรยอง ทำให้เกิดผิวสัมผัสที่น่าสนใจ
นอกจากชนิดของเส้นใยที่นำมาผลิตด้ายแล้ว เรื่องต่อไปที่เราควรรู้คือ ขนาดของเส้นด้าย ซึ่งมีความสำคัญต่องานของเรามากที่สุด
8 ต.ค. 2566
14 ส.ค. 2565
31 ม.ค. 2567
22 ต.ค. 2565